6 วิธีบอกรักตัวเองง่ายๆ ทำได้ทุกวัน

ครึ่งปีผ่านไป คุณเดินเข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องรายได้ เรื่องความสัมพันธกับคนรอบข้าง ในเมื่อทุ่มเทเพื่อเป้าหมายแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องการดูแลตัวเองทั้งเรื่องร่างกาย และเรื่องสภาพจิตใจ โชคดีที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกล ให้คุณสามารถติดตามสุขภาพของตัวเองได้อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน GPS สมารวอทชจาก Garmin วันนี้เราเลยรวบรวมเทคนิคดูแลตัวเองได้ง่ายๆ มาฝากกัน

1. ดื่มน้ำเยอะๆ
หลายคนคงคุ้นเคยกับประโยคนี้ดี แต่ไม่ว่าว่าคุณจะเบื่อกับประโยคนี้มากแค่ไหน เราก็จะยังคงตอกย้ำให้คุณดื่มน้ำเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ และกื่มน้ำเยอะๆ เพราะร่างกายของคุณต้องการของเหลวด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ เพื่อช่วยย่อยอาหาร เพื่อปกป้องเนื้อเยื่อและข้อต่อ รวมไปถึงการควบคุมอารมณ์ ดังนั้นการดื่มน้ำ และรักษาระดับน้ำในร่างกายในร่างกายให้คงที่อยู่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ถึงเวลาเทน้ำใส่แก้ว แล้วค่อยๆ ดื่มแล้วตอนนี้ หรือจะดื่มจากขวดน้ำพกพาดีไซน์สุดคูลก็ได้เช่นกัน และเพื่อช่วยให้คุณติดตามการดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน คุณสามารถดาวน์โหลดวิดเจ็ต Garmin Hydration Tracking เพื่อบันทึกปริมาณน้ำที่คุณดื่มและตั้งการเตือนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายในการดื่มน้ำของวันนั้นๆ ได้ทันที

2. คอยเช็กระดับความเครียด
ที่จริงแล้วสมารทวอทชบางรุ่นสามารถแสดงให้คุณเห็นระดับความเครียดในปัจจุบันของคุณแบบได้เรียลไทม์ โดยมีการให้คะแนนเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ถึง 100 ซึ่งอุปกรณ์ Garmin ที่รองรับการใช้ฟีเจอร์นี้จะใช้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อวัดช่วงเวลาระหว่างการเต้นของหัวใจแต่ละครั้ง เพราะระยะเวลานั้นถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติของคุณ ความแปรปรวนระหว่างการเต้นของหัวใจที่น้อยลงบ่งบอกถึงระดับความเครียดที่สูงขึ้น และความแปรปรวนที่มากขึ้นบ่งบอกถึงระดับความเครียดที่ต่ำลง โดยคะแนนความเครียด 0-25 แสดงถึงร่างกายที่กำลังอยู่ในสภาวะพักผ่อน (แสดงเป็นสีน้ำเงิน) 26-50 แสดงถึงระดับความเครียดต่ำ (สีส้มอ่อน) 51-75 แสดงถึงระดับความเครียดปานกลาง (สีส้มเข้ม) และ 76-100 แสดงถึงระดับความเครียดสูง (สีแดง)

3. หยุดพักเพื่อหายใจบ้าง
หากระดับความเครียดของคุณเข้าใกล้ระดับสีแดง นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการหยุดพักเพื่อหายใจ โดยสมาร์ทวอทช์ Garmin บางรุ่นก็มาพร้อมกับกิจกรรมการหายใจ ที่จะคอยแนะนำคุณเกี่ยวกับการฝึกหายใจอย่างมีสติเมื่อที่คุณต้องการ ขณะที่คุณหายใจ นาฬิกาของคุณจะติดตามระดับความเครียดและการหายใจเพื่อช่วยให้คุณสามารถปรับกลับมาสู่ภาวะปกติ หากระดับความเครียดของคุณสูง นาฬิกาของคุณจะแจ้งเตือนให้คุณผ่อนคลายลง โดยจะแจ้งให้คุณหยุดพัก และฝึกหายใจจนระดับความเครียดลดลง

4. พักผ่อนให้เพียงพอ
แน่นอนว่าเราทุกคนต่างก็เคยผ่านช่วงเวลาที่นอนน้อย หรือนอนไม่พอกันมาบ้างแล้ว ซึ่งการทำแบบนั้นอาจทำให้คุณกลายเป็นเหมือนซอมบี้ในวันรุ่งขึ้น และแน่นอนว่าพฤติกรรมแบบนี้ย่อมไม่ส่งผลดีต่อร่างกายหรือจิตใจของคุณแน่นอน ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอไม่เพียงช่วยให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงตลอดทั้งวันเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณด้วย

หากคุณต้องการตัวช่วย ก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Garmin Sleep Score การติดตามการนอนหลับของ Garmin ช่วยแสดงผลการวิเคราะห์รูปแบบการนอนของคุณอย่างมีหลักการ นาฬิการุ่นที่รองรับฟีเจอร์การติดตามการนอนหลับขั้นสูงสามารถระบุเวลาที่คุณหลับ เวลาที่คุณตื่น และเวลาที่ร่างกายของคุณเข้าสู่ช่วงของการนอนหลับต่างๆ ตลอดทั้งคืน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า คุณจะได้รับคะแนนการนอนหลับที่มีค่าตั้งแต่ 0-100 ซึ่งจะสรุประยะเวลาที่คุณนอน คุณภาพของการนอนหลับ และร่างกายของคุณสามารถฟื้นตัวจากวันก่อนได้ดีเพียงใด นอกจากนี้คุณยังจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่แจ้งให้คุณทราบว่าคุณทำได้ดีเพียงใด หรืออะไรที่คุณสามารถทำได้ในระหว่างวันเพื่อเพิ่มโอกาสการได้คะแนนการนอนหลับที่ดียิ่งขึ้นสำหรับคืนต่อๆ ไป

5. ออกกำลังกาย
แม้ว่าหลายๆ ฉากในหนังเรื่อง Legally Blonde ที่แสดงโดย Reese Witherspoon อาจดูโอเวอร์เกินที่จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง แต่มันก็ประโยคในหนังที่เราเอาไปใช้ได้เหมือนกันนะ เช่น การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งเอ็นดอร์ฟินออกมา และเอ็นดอร์ฟินนี่แหละ ที่ช่วยให้คุณมีความสุข นอกจากนี้การออกกำลังกายยังมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ สุขภาพหัวใจและปอด ระดับพลังงาน และอื่นๆ ซึ่งสมารทวอทชจาก Garmin ก็มีประเภทการออกกำลังกายที่หลากหลาย ให้คุณเลือกได้แบบแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การปีนหน้าผาจำลอง ไปจนถึงการเล่นพิลาทิส คุณอาจแปลกใจเมื่อค้นพบการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณและรู้สึกถึงสารเอ็นดอร์ฟินที่กำลังหลั่งออกมา

6. ติดตามอาการช่วงมีรอบเดือนอย่างใกล้ชิด
ระยะของรอบเดือนมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะมีประจำเดือน (menstruation) ระยะก่อนไข่ตก (follicular ) ระยะที่ไข่ตก (ovulation) และระยะหลังไข่ตก (luteal) ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดจากการขับเคลื่อนของฮอร์โมน และการรู้ว่าคุณกำลังอยู่ในระยะใดสามารถอธิบายได้มากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของคุณในขณะนั้นๆ ด้วยการใช้งานการติดตามรอบเดือนของ Garmin อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะจากวิดเจ็ตบนสมาร์ทวอทช์ที่รองรับฟีเจอร์นี้หรือจากแอป Garmin Connect™ คุณก็จะสามารถทราบถึงสภาวะสุขภาพโดยรวมได้อย่างดียิ่งขึ้น และยังทราบถึงสิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นในแง่ของการดูแลตัวเอง

หากคุณสามารถทำตามคำแนะนำ 6 ข้อนี้ได้อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกายของคุณที่จะกลับมาแข็งแรงกว่าเมื่อก่อน แต่สภาพจิตใจในแต่ละวันของคุณเช่นกัน เพียงเริ่มต้นดูแลตัวเองจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว